นาทีระทึก หมู่ออฟเล่าเหตุการณ์ขณะรถขนต่างด้าวพุ่งเข้าชน “หมู่อาร์ม”ดับ

นาทีระทึก หมู่ออฟเล่าเหตุการณ์ ขณะรถขนต่างด้าวพุ่งเข้าชน จนหมู่อาร์มเสียชีวิต เผยขับเร็วสาดไฟสูงขนาดเปิดไฟใส่ยังไม่หยุด ก่อนพุ่งชนอย่างจัง อยากรู้คนขับคิดอะไรอยู่

วันที่ 18 ธ.ค.2567 พล.ต.ท.กิตติศักดิ์ ดุรงควิบูล ผบช.ภ.6 เป็นประธานสวดอภิธรรมศพ ส.ต.ท.ณัฐวัฒน์ ภวัตรัชต์พงษ์ หรือหมู่อาร์ม ผบ.หมู่ ป. สภ.เมืองกำแพงเพชร ที่บ้านพักหมู่ที่ 4 ต.คลองน้ำไหล อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร โดยมีพล.ต.ต.โอภาส คงเมือง ผบก.ภ.จว.กำแพงเพชร พ.ต.อ.เอนก จันทร์ศร รอง ผบก. พ.ต.อ.กรวิทย์ อ่อนทอง ผก.สภ.เมืองกำแพงเพชร เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด บก.ภ.จว.กำแพงเพชร ผู้นำท้องถิ่น ประชาชน และครอบครัวผู้เสียชีวิตร่วมในพิธี

โดยก่อนพิธีสวดอภิธรรมจะเริ่มขึ้น พล.ต.ท.กิตติศักดิ์ ดุรงควิบูล ผบช.ภ.6 ได้พูดคุยให้กำลังใจครอบครัวผู้เสียชีวิต ในช่วงหนึ่งได้กล่าวถึงการทำหน้าที่ของหมู่อาร์ม ที่สละชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ ให้เก็บไว้เป็นความภาคภูมิใจ ในสิ่งที่ได้ทิ้งเอาไว้ ในส่วนเรื่องสิทธิประโยชน์ต่างๆได้ประสานมายัง ภ.จว.กำแพงเพชรให้ดูแลอย่างเต็มที่ หากมีสิ่งไดให้การช่วยเหลือให้บอกได้เลย

ด้าน ส.ต.ท.บุญญฤทธิ์ แก้วจาเครือ หรือหมู่ออฟ ผบ.หมู่ ป.สภ.เมืองกำแพงเพชร ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์และได้รับบาดเจ็บ เล่าให้ฟังว่าขณะเกิดเหตุ ประจำการอยู่หน้ารถในตำแหน่งพลขับ ปรากฏว่าช่วงเวลาดังกล่าวรถทั้ง 3 คันได้ขับเข้ามายังจุดสกัด โดยรถที่นายทรงพลเป็นคนขับ ได้พุ่งเจ้ามาหารถตำรวจด้วยความเร็ว เปิดไฟสูงสาดเข้ามา ตนจึงเปิดไฟใส่ แต่รถคันดังกล่าวก็ชนเข้าอย่างจัง
ตอนนั้นรู้สึกหูอื้อ และหน้ามืด ไม่รู้สึกตัวอะไรแล้ว แม้กระทั่งเพื่อนร่วมงานที่เสียชีวิตในที่เกิดเหตุตนเองก็ยังไม่รู้อะไรเลย ตนมองว่าเหตุการณ์นี้ไม่น่าเกิดขึ้น อยากรู้ว่าคนขับรถคันก่อเหตุคิดอะไรอยู่ ส่วนตนเองตอนนี้ มีอาการบาดเจ็บที่ขาทั้งสองข้าง ข้อมือซ้าย และยังแน่นหน้าอกอยู่ ทั้งนี้แม้เหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้น ตนยังศรัทธาในอาชีพตำรวจ และจะดูแลพี่น้องประชาชนต่อไป

ด้าน ส.ต.ท.บุญญฤทธิ์ แก้วจาเครือ หรือหมู่ออฟ ผบ.หมู่ ป.สภ.เมืองกำแพงเพชร ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์และได้รับบาดเจ็บ เล่าให้ฟังว่าขณะเกิดเหตุ ประจำการอยู่หน้ารถในตำแหน่งพลขับ ปรากฏว่าช่วงเวลาดังกล่าวรถทั้ง 3 คันได้ขับเข้ามายังจุดสกัด โดยรถที่นายทรงพลเป็นคนขับ ได้พุ่งเจ้ามาหารถตำรวจด้วยความเร็ว เปิดไฟสูงสาดเข้ามา ตนจึงเปิดไฟใส่ แต่รถคันดังกล่าวก็ชนเข้าอย่างจัง

ตอนนั้นรู้สึกหูอื้อ และหน้ามืด ไม่รู้สึกตัวอะไรแล้ว แม้กระทั่งเพื่อนร่วมงานที่เสียชีวิตในที่เกิดเหตุตนเองก็ยังไม่รู้อะไรเลย ตนมองว่าเหตุการณ์นี้ไม่น่าเกิดขึ้น อยากรู้ว่าคนขับรถคันก่อเหตุคิดอะไรอยู่ ส่วนตนเองตอนนี้ มีอาการบาดเจ็บที่ขาทั้งสองข้าง ข้อมือซ้าย และยังแน่นหน้าอกอยู่ ทั้งนี้แม้เหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้น ตนยังศรัทธาในอาชีพตำรวจ และจะดูแลพี่น้องประชาชนต่อไป

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *